Link : ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ปี 2554
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2554
มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป
จังหวัด | ก่อนปรับ | เพิ่มขึ้น | หลังปรับ |
ภูเก็ต | 221 | 79 | 300 |
กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร | 215 | 85 | 300 |
ชลบุรี | 196 | 77 | 273 |
ฉะเชิงเทรา สระบุรี | 193 | 76 | 269 |
พระนครศรีอยุธยา | 190 | 75 | 265 |
ระยอง | 189 | 75 | 264 |
พังงา | 186 | 73 | 259 |
ระนอง | 185 | 73 | 258 |
กระบี่ | 184 | 73 | 257 |
นครราชสีมา ปราจีนบุรี | 183 | 72 | 255 |
ลพบุรี | 182 | 72 | 254 |
กาญจนบุรี | 181 | 71 | 252 |
เชียงใหม่ ราชบุรี | 180 | 71 | 251 |
จันทบุรี เพชรบุรี | 179 | 71 | 250 |
สงขลา สิงห์บุรี | 176 | 70 | 246 |
ตรัง | 175 | 69 | 244 |
นครศรีธรรมราช อ่างทอง | 174 | 69 | 243 |
ชุมพร พัทลุง เลย สตูล สระแก้ว | 173 | 68 | 241 |
ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา สมุทรสงคราม สุราษฎร์ธานี | 172 | 68 | 240 |
นราธิวาส อุดรธานี อุบลราชธานี | 171 | 68 | 239 |
นครนายก ปัตตานี | 170 | 67 | 237 |
ตราด บึงกาฬ ลำพูน หนองคาย | 169 | 67 | 236 |
กำแพงเพชร อุทัยธานี | 168 | 66 | 234 |
กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท สุพรรณบุรี | 167 | 66 | 233 |
เชียงราย นครสวรรค์ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด สกลนคร | 166 | 66 | 232 |
ชัยภูมิ มุกดาหาร ลำปาง สุโขทัย หนองบัวลำภู | 165 | 65 | 230 |
นครพนม | 164 | 65 | 229 |
พิจิตร พิษณุโลก แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ | 163 | 64 | 227 |
ตาก สุรินทร์ | 162 | 64 | 226 |
น่าน | 161 | 64 | 225 |
ศรีสะเกษ | 160 | 63 | 223 |
พะเยา | 159 | 63 | 222 |
ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้าง
ที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554
และมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (3) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง
แรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551
คณะกรรมการค่าจ้างจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 5) ลงวันที่
13 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ข้อ 2 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยบาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร
จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
ข้อ 3 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยเจ็ดสิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดชลบุรี
ข้อ 4 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยหกสิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดฉะเชิงเทรา และสระบุรี
ข้อ 5 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยหกสิบห้าบาท ในท้องที่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข้อ 6 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยหกสิบสี่บาท ในท้องที่
จังหวัดระยอง
ข้อ 7 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดพังงา
ข้อ 8 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบแปดบาท ในท้องที่
จังหวัดระนอง
ข้อ 9 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบเจ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดกระบี่
ข้อ 10 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบห้าบาท ในท้องที่
จังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี
ข้อ 11 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบสี่บาท ในท้องที่
จังหวัดลพบุรี
ข้อ 12 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบสองบาท ในท้องที่
จังหวัดกาญจนบุรี
ข้อ 13 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบเอ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดเชียงใหม่ และราชบุรี
ข้อ 14 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบบาท ในท้องที่
จังหวัดจันทบุรี และเพชรบุรี
ข้อ 15 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบหกบาท ในท้องที่
จังหวัดสงขลา และสิงห์บุรี
ข้อ 16 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบสี่บาท ในท้องที่จังหวัดตรัง
ข้อ 17 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดนครศรีธรรมราช และอ่างทอง
ข้อ 18 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบเอ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดชุมพร พัทลุง เลย สตูล และสระแก้ว
ข้อ 19 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบบาท ในท้องที่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยะลา สมุทรสงคราม และสุราษฎร์ธานี
ข้อ 20 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดนราธิวาส อุดรธานี และอุบลราชธานี
ข้อ 21 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบเจ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดนครนายก และปัตตานี
ข้อ 22 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบหกบาท ในท้องที่
จังหวัดตราด บึงกาฬ ลำพูน และหนองคาย
ข้อ 23 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบสี่บาท ในท้องที่
จังหวัดกำแพงเพชร และอุทัยธานี
ข้อ 24 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท และสุพรรณบุรี
ข้อ 25 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบสองบาท ในท้องที่
จังหวัดเชียงราย นครสวรรค์ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด และสกลนคร
ข้อ 26 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบบาท ในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
มุกดาหาร ลำปาง สุโขทัย และหนองบัวลำภู
ข้อ 27 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดนครพนมข้อ 28 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบเจ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์
ข้อ 29 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบหกบาท ในท้องที่จังหวัดตาก
และสุรินทร์
ข้อ 30 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบห้าบาท ในท้องที่จังหวัดน่าน
ข้อ 31 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดศรีสะเกษ
ข้อ 32 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบสองบาท ในท้องที่
จังหวัดพะเยา
ข้อ 33 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 2 ถึงข้อ 32 คำว่า “วัน” หมายถึง เวลาทำงานปกติของ
ลูกจ้าง ซึ่งไม่เกินชั่วโมงทำงานดังต่อไปนี้ แม้นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานน้อยกว่าเวลาทำงานปกติ
เพียงใดก็ตาม
(1) เจ็ดชั่วโมง สำหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง
ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
พ.ศ. 2541
(2) แปดชั่วโมง สำหรับงานอื่นซึ่งไม่ใช่งานตาม (1)
ข้อ 34 ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเป็นเงินแก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ข้อ 35 ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2554
หากนายจ้างไม่ปรับอัตราค่าจ้างขึ้นให้จะมีบทลงโทษอะไรหรือเปล่า
ตอบลบ