วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ปี 2555

Link : ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำปี 2556 
Link : ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ปี 2554

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2554

มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป


จังหวัด ก่อนปรับ เพิ่มขึ้น หลังปรับ
ภูเก็ต 221 79 300
กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร     215 85 300
ชลบุรี 196 77 273
ฉะเชิงเทรา สระบุรี 193 76 269
พระนครศรีอยุธยา 190 75 265
ระยอง 189 75 264
พังงา 186 73 259
ระนอง 185 73 258
กระบี่ 184 73 257
นครราชสีมา ปราจีนบุรี 183 72 255
ลพบุรี 182 72 254
กาญจนบุรี 181 71 252
เชียงใหม่ ราชบุรี 180 71 251
จันทบุรี เพชรบุรี 179 71 250
สงขลา สิงห์บุรี 176 70 246
ตรัง 175 69 244
นครศรีธรรมราช อ่างทอง 174 69 243
ชุมพร พัทลุง เลย สตูล สระแก้ว 173 68 241
ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา สมุทรสงคราม สุราษฎร์ธานี 172 68 240
นราธิวาส อุดรธานี อุบลราชธานี 171 68 239
นครนายก ปัตตานี 170 67 237
ตราด บึงกาฬ ลำพูน หนองคาย 169 67 236
กำแพงเพชร อุทัยธานี 168 66 234
กาฬสินธุ์  ขอนแก่น ชัยนาท สุพรรณบุรี 167 66 233
เชียงราย นครสวรรค์ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด สกลนคร   166 66 232
ชัยภูมิ มุกดาหาร ลำปาง สุโขทัย หนองบัวลำภู 165 65 230
นครพนม 164 65 229
พิจิตร พิษณุโลก แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์     163 64 227
ตาก สุรินทร์ 162 64 226
น่าน 161 64 225
ศรีสะเกษ 160 63 223
พะเยา 159 63 222

ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้าง
ที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554
และมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (3) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง
แรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551
คณะกรรมการค่าจ้างจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 5) ลงวันที่
13 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ข้อ 2 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยบาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร
จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
ข้อ 3 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยเจ็ดสิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดชลบุรี
ข้อ 4 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยหกสิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดฉะเชิงเทรา และสระบุรี
ข้อ 5 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยหกสิบห้าบาท ในท้องที่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข้อ 6 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยหกสิบสี่บาท ในท้องที่
จังหวัดระยอง
ข้อ 7 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดพังงา
ข้อ 8 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบแปดบาท ในท้องที่
จังหวัดระนอง
ข้อ 9 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบเจ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดกระบี่
ข้อ 10 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบห้าบาท ในท้องที่
จังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี
ข้อ 11 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบสี่บาท ในท้องที่
จังหวัดลพบุรี

ข้อ 12 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบสองบาท ในท้องที่
จังหวัดกาญจนบุรี
ข้อ 13 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบเอ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดเชียงใหม่ และราชบุรี
ข้อ 14 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยห้าสิบบาท ในท้องที่
จังหวัดจันทบุรี และเพชรบุรี
ข้อ 15 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบหกบาท ในท้องที่
จังหวัดสงขลา และสิงห์บุรี
ข้อ 16 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบสี่บาท ในท้องที่จังหวัดตรัง
ข้อ 17 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดนครศรีธรรมราช และอ่างทอง
ข้อ 18 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบเอ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดชุมพร พัทลุง เลย สตูล และสระแก้ว
ข้อ 19 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสี่สิบบาท ในท้องที่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยะลา สมุทรสงคราม และสุราษฎร์ธานี
ข้อ 20 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดนราธิวาส อุดรธานี และอุบลราชธานี
ข้อ 21 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบเจ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดนครนายก และปัตตานี
ข้อ 22 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบหกบาท ในท้องที่
จังหวัดตราด บึงกาฬ ลำพูน และหนองคาย
ข้อ 23 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบสี่บาท ในท้องที่
จังหวัดกำแพงเพชร และอุทัยธานี
ข้อ 24 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท และสุพรรณบุรี
ข้อ 25 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบสองบาท ในท้องที่
จังหวัดเชียงราย นครสวรรค์ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด และสกลนคร
ข้อ 26 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยสามสิบบาท ในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
มุกดาหาร ลำปาง สุโขทัย และหนองบัวลำภู
ข้อ 27 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบเก้าบาท ในท้องที่
จังหวัดนครพนมข้อ 28 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบเจ็ดบาท ในท้องที่
จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์
ข้อ 29 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบหกบาท ในท้องที่จังหวัดตาก
และสุรินทร์
ข้อ 30 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบห้าบาท ในท้องที่จังหวัดน่าน
ข้อ 31 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบสามบาท ในท้องที่
จังหวัดศรีสะเกษ
ข้อ 32 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละสองร้อยยี่สิบสองบาท ในท้องที่
จังหวัดพะเยา
ข้อ 33 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 2 ถึงข้อ 32 คำว่า “วัน” หมายถึง เวลาทำงานปกติของ
ลูกจ้าง ซึ่งไม่เกินชั่วโมงทำงานดังต่อไปนี้ แม้นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานน้อยกว่าเวลาทำงานปกติ
เพียงใดก็ตาม
(1) เจ็ดชั่วโมง สำหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง
ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
พ.ศ. 2541
(2) แปดชั่วโมง สำหรับงานอื่นซึ่งไม่ใช่งานตาม (1)
ข้อ 34 ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเป็นเงินแก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ข้อ 35 ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2554

1 ความคิดเห็น:

  1. หากนายจ้างไม่ปรับอัตราค่าจ้างขึ้นให้จะมีบทลงโทษอะไรหรือเปล่า

    ตอบลบ

สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนQ3 ปี 2560

ผลประกอบการ ย้อนหลัง 13 ไตรมาส ของบริษัทที่ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2560 แล้ว 616 บริษัท ราคา*  คือราคาปิด วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 P...